เกร็ดญี่ปุ่น (3-4) โดย อำพล จินดาวัฒนะ บันทึกการเดินทางระหว่างประชุม “Empowering Communities and Building Social Consensus : International Seminar on HIA”

เกร็ดญี่ปุ่น

โดย อำพล จินดาวัฒนะ

ตอน ๓ สุภาพ นอบน้อม ใฝ่บริการ ให้เกียรติและตรงต่อเวลา

คนญี่ปุ่นโดยส่วนใหญ่ เป็นคนน่ารัก สุภาพ ให้เกียรติคนอื่น ตามร้านค้าหรือที่บริการต่างๆทั้งของรัฐและเอกชน คนญี่ปุ่นดูกระปรี้กระเปร่า และกระตือรือร้นในการให้บริการตลอดเวลา ผมไปสำรองที่นั่งรถไฟที่หน่วยบริการเอกชนที่สถานีรถไฟ เจ้าหน้าที่กระตือรือร้นให้บริการดีมาก ให้บริการเสร็จก็โค้งคำนับให้เกียรติลูกค้าอย่างเป็นธรรมชาติ
ไม่เหมือนการยกมือไหว้แบบกลไกของพนักงานบริการสายการบินบางประเทศ555…

พนักงานรถไฟ เมื่อเดินเข้ามาในโบกี้โดยสาร สิ่งแรกที่ทำคือการโค้งคำนับผู้โดยสาร และเมื่อจะก้าวพ้นออกไป ก็หันกลับมาโค้งคำนับอีกครั้งหนึ่ง

พนักงานตามร้านอาหาร จะส่งเสียงเชื้อเชิญลูกค้าเข้าร้าน เมื่อเข้าร้านแล้วก็จะดูแลเป็นอย่างดี เมื่อลูกค้าออกจากร้านก็คำนับและกล่าวขอบคุณ ดูเป็นธรรมชาติ

ถามข้อมูลอะไรกับคนญี่ปุ่น ไม่ว่าที่ไหน แทบไม่มีที่จะได้รับการปฏิเสธ ขนาดบางครั้งสื่อภาษากันไม่ค่อยรู้เรื่อง เขาก็ยังพยายามจะให้ข้อมูล ไม่รู้สึกรำคาญหรือดูถูกคนอื่น

การประชุมที่ผมเข้าร่วม มีเจ้าหน้าที่ช่วยจัดการ๒-๓คน เมื่องานเสร็จ ตอนกลางคืน มีงานเลี้ยงให้แก่วิทยากรและผู้เข้าร่วมจากประเทศไทย สิ่งที่ผมสังเกตเห็นก็คือ ศาสตราจารย์เจ้าของงานจะกล่าวแนะนำให้ทุกคนรู้จักว่า ใครคือเจ้าหน้าที่ช่วยทำงานอยู่เบื้องหลังบ้าง และในงานเลี้ยงคืนที่ ๒ก็เปิดโอกาสให้ทุกคนได้กล่าวแสดงความรู้สึกคนละเล็กคนละน้อยรวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่ช่วยงานทุกคนก็ได้มีโอกาสพูดด้วย

เป็นการให้เกียรติแก่ทุกคนอย่างเสมอกัน ช่องว่างระหว่างวัย ระหว่างตำแหน่งและระหว่างบทบาทหน้าที่ของแต่ละคนค่อนข้างแคบ

วันที่ผมเดินทางเสร็จประชุม ต้องเดินทางต่อเพื่อไปทัศนศึกษาออกเดินทางจากที่พักตั้งแต่เช้าตรู่ Pr. Miyakitaเจ้าของงาน ตื่นแต่เช้ามาดักรอส่งผมขึ้นรถไปสถานีรถไฟ

Pr. Miyakitaตื่นมาส่งแต่เช้าตรู่

เจ้าหน้าที่ผู้ประสานงานช่วยขับรถไปส่งที่สถานีรถไฟ ดูแลช่วยเหลือผมและภรรยาเป็นอย่างดี ยืนโค้งคำนับและโบกมือส่งเราจนลับตา (ให้แน่ใจว่าไปจริงๆ)

สองเจ้าหน้าที่ประสานงานไปส่งเราที่สถานีรถไฟ 

เวลาไปเที่ยวในชนบทผู้คนก็สุภาพ ทักทายให้เกียรติ แม้ในเมืองใหญ่จะต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างไปมากกว่า แต่โดยรวมก็ยังปรากฏลักษณะเด่นเหล่านี้ให้เห็นตลอด ไปญี่ปุ่น จึงเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่น สบายๆ

ตอนอาหารค่ำ ถือโอกาสนวดไทยสาธิตให้โปรเฟสเซอร์ซะหน่อย

นอกจากนี้ เรื่องการตรงต่อเวลาก็เป็นวินัยพื้นฐานของคนญี่ปุ่นอีกอย่างหนึ่งที่เด่นมาก รถไฟ รถเมล์ บริการสาธารณะต่างๆตรงเวลามาก ไปไหนมาไหน จึงวางแผน กำหนดเวลาที่ชัดเจนได้หมด

คนไทยผิดเวลากันจนเป็นปกติถ้าตรงเวลา อาจกลายเป็นผิดปกติไป
มีเรื่องเล่าว่า มีการประชุมครั้งหนึ่ง มีผู้ชายคนหนึ่งเข้าประชุมสาย เขาบอกกับประธานที่ประชุมว่า
“ขอโทษครับที่มาสาย เพราะรถติด”

ซึ่งเป็นคำแก้ตัวแบบท่าไม้ตายสำหรับคนที่อยู่ในกรุงเทพ
บังเอิญว่าการประชุมคราวนั้น จัดที่ต่างจังหวัด และที่สำคัญคือ เขาจัดให้ทุกคนพักที่โรงแรมเดียวกันกับสถานที่ใช้ประชุม ไม่ต้องเดินทางมาจากไหน

แล้วรถมันจะติดได้อย่างไร?555

………………………………………………………………..

ตอนที่ ๔ อาหารญี่ปุ่นกับคนญี่ปุ่นที่อายุยืนที่สุดในโลก

สังเกตเห็นว่า คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่กินอาหารได้สัดส่วนระหว่างพืช ผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ ซึ่งหนักไปทางปลาและอาหารทะเล คนญี่ปุ่นกินอาหารแต่ละมื้อไม่มากในขณะที่คนญี่ปุ่นออกกำลังกายในการทำงานและในการใช้ชีวิตประจำวันด้วยการเดินกันหนาตา เพราะเขาใช้ขนส่งมวลชนกันมากกว่ารถส่วนตัว (และเขาไม่มีนโยบายลดภาษีให้สำหรับการซื้อรถคันแรกด้วย555) ในชีวิตประจำวัน คนญี่ปุ่นจึงต้องเดินด้วยเสมอ และมีปั่นจักรยานกันก็มาก

พฤติกรรมเหล่านี้ อาจเป็นส่วนหนึ่งที่เสริมทำให้คนญี่ปุ่นอายุยืนที่สุดในโลก

ผมไปพักโรงเตี๊ยมคล้ายๆhome stayที่เรียกว่า “gassho-zukuri farmhouse” ในหมู่บ้านชนบทชื่อ Shirakawa-go ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นชุมชนท้องถิ่นมรดกโลก พักอาศัยแบบชาวชนบทญี่ปุ่น เขาเลี้ยงอาหารเย็น ๑ มื้อ และอาหารเช้า๑มื้อ เป็นอาหารพื้นบ้านมีผักหลายชนิด มีซุปญี่ปุ่น มีปลาย่างตัวเล็กๆย่างด้วยไฟฟืนใหม่ๆให้คนละตัว มีเนื้อชิ้นเล็กๆ กินกับข้าวสวยญี่ปุ่น และมีผลไม้๔-๕ชิ้นเป็นอาหารหวาน มีชาเขียวร้อนๆให้จิบแก้หนาว เป็นอาหารที่อร่อยทุกชนิด ปริมาณไม่มากไป ไม่น้อยไปกินกำลังอิ่มพอดีๆ

อาหารเช้าที่Shirakawa-go

อาหารเย็นที่Shirakawa-go

วันที่มีการประชุมที่มหาวิทยาลัย ตอนกลางวันเขาเลี้ยงอาหารกล่อง(lunch box)มีข้าวปั้น ปลาชิ้นเล็กๆ ผัก และผลไม้กินแค่พออิ่มหรือเกือบอิ่ม ไม่ล้นเกิน

งานเลี้ยงตอนเย็น เขาเลี้ยงอาหารญี่ปุ่นที่ภัตรคาร มีอาหารหลากหลายชนิด แต่ละชนิดมีปริมาณไม่มาก มีผักหลายชนิด ทยอยเสริฟ อร่อยสุดๆ กินแล้วอิ่ม แต่ก็ไม่ถึงกับรู้สึกอิ่มเกินไป

เลี้ยงใหญ่หลังเสร็จประชุมที่Minamata
 

มีข้อมูลว่าคนญี่ปุ่นมีปัญหาโรคอ้วน น้ำหนักเกินต่ำกว่าคนอเมริกันถึงเกือบ๑๐เท่า

ที่จริงอาหารไทยของเราก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าอาหารญี่ปุ่น แต่เรากลับเปลี่ยนพฤติกรรม หนีออกจากอาหารไทย ไปนิยมอาหารที่ด้อยคุณค่าที่มากับบริโภคนิยมสมัยใหม่ ไปกินหวาน มัน เค็มกันมาก กินผักน้อยลง และกำลังพาเผลอพากัน “กินเกินพอดี”มากขึ้นเรื่อยๆจนเกิดปัญหาโรคอ้วนและน้ำหนักเกิน ทวีปริมาณและความรุนแรงมากขึ้นอย่างรวดเร็ว น่าหวั่นใจ
 

ติดตามตอนต่อไป เร็วนี้ๆ

เกร็ดญี่ปุ่น ตอนที่ 1 วินัยพื้นฐาน  >>คลิก<<
เกร็ดญี่ปุ่น ตอนที่ 2 “ใฝ่เรียนรู้”    >>คลิก<<
เกร็ดญี่ปุ่น ตอนที่ 3 และ 4   >>คลิก<<